บทที่ 4 4

น้ำหวานเข้ามาในห้องเรียนเกือบไม่ทันเวลาดีที่อาจารย์มาพอดีทำให้คนตัวเล็กรู้สึกโล่งใจไม่น้อยเลย เธอนั่งลงก่อนจะเอาหนังสือเรียนขึ้นมา หญิงสาวจับข้อเท้าแต่ก็ยังทนไหวอยู่รู้สึกหน้าอายมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นไม่รู้ว่ามีใครเห็นมากน้อยแค่ไหน คิดแล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจออกมา

ผ่านไปพักใหญ่

“วันนี้พอแค่นี้นะคะนักศึกษา อย่าลืมอาทิตย์หน้ามีงานต้องส่ง ถ้าใครไม่ส่งไม่ได้คะแนนสะสมอย่ามาโทษอาจารย์นะ”

“ค่ะ/ครับ”พออาจารย์ออกไปหญิงสาวก็รีบเก็บของใส่กระเป๋าวันนี้เธอมีเรียนอีกวิชาเลยจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร พอเห็นเพื่อนอย่างแก้มใสที่มาที่โรงอาหารแล้วเพราะคนตัวเล็กก็มีเรียนในวิชานี้เหมือนกันน้ำหวานก็รีบเดินไปหาทันที

“ทำไมเดินแบบนั้นล่ะ”

“ล้มนิดหน่อยนะเลยเจ็บข้อเท้า”

“เป็นอะไรมากรึเปล่าไหวไหม ไม่ไหวอย่าทนนะเดี๋ยวเจ็บมากกว่าเดิม”สีหน้าตกใจของแก้มใสทำให้น้ำหวานอมยิ้มออกมาเล็กน้อย เห็นท่าทีของเพื่อนที่ดูเป็นห่วงเธอแบบนี้ก็รู้สึกขอบคุณไม่น้อยเลย

“ขอบใจนะแต่น่าจะไหวอยู่”

“เคๆ กินไรดีวันนี้”

“ก๋วยเตี๋ยวไหม”

“ได้ เราไปซื้อให้นะเธอไม่ต้องเดินมากหรอก เฝ้าโต๊ะไป”

“ขอบใจนะน่ารักจัง”

“อิอิรู้ตัวดีจ้า”แก้มใสยิ้มมาให้ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปซื้อก๋วยเตี๋ยวไม่นานสองสาวก็นั่งทานกันพร้อมพูดคุยไปเรื่อยเปื่อยตามประสา หลังจากที่อิ่มกันแล้วก็รอเวลาเรียนอีกวิชา

“ชมรมเลือกอะไรดีอะ”อาทิตย์หน้าต้องเลือกชมรมแล้วแต่ก็ไม่รู้เลยว่าพวกเธอจะเข้าชมรมไหน

“ชมรมว่ายน้ำก็ดีนะจิตอาสาก็น่าสนหรือทำอาหารดี เฮ้อเลือกยากจัง”น้ำหวานฟังเพื่อนบ่นพึมพำออกมาก็เหมือนจะคิดหนักเหมือนกัน

“จิตอาสาไหม เห็นได้ยินว่าบางครั้งก็ได้ไปช่วยเหลือโรงเรียนยากไร้อะไรพวกนี้เราว่าดีนะ ได้ทำบุญด้วย”คนตัวเล็กที่คิดไตร่ตรองจึงเสนอแนะขึ้นมา

“อืมก็ดีนะ แต่ไม่รู้ว่าจะทันไหม ขอให้ไม่เต็มก่อนเถอะนะสาธุๆ”

“เดี๋ยวถึงวันนี้เรารีบไปสมัครกัน”แก้มใสพยักหน้าก่อนที่ทั้งสองจะลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าได้เวลาเรียนแล้ว

วันเลือกชมรมสองสาวรีบไปลงชื่อทันทีและก็ดูเหมือนว่าพวกเธอจะโชคดีมากๆ ที่ยังทันห้าคนสุดท้ายมันทำให้แก้มใสรู้สึกดีใจไม่น้อยเลย นึกว่าจะต้องเปลี่ยนแผนแล้ว แต่พอเข้าชมรมจากที่ใบหน้ายิ้มแย้มของแก้มใสก็ค่อยๆ หุบลงเมื่อเห็นว่ามีกลุ่มรุ่นพี่สุดฮอตอยู่ชมรมนี่ด้วย เธอรีบก้มหน้าลงทันทีก่อนจะดึงเพื่อนให้นั่งห่างๆ จากกลุ่มนั้น

“ทำไมเหรอเป็นอะไรไป”

“เปล่า แค่ไม่คิดน่ะว่าพวกพี่พวกนั้นอยู่ที่นี่ด้วย ถึงว่าทำไมชมรมเต็มไวจัง”

“พวกไหน?”

“ก็คนที่เราเล่าให้ฟังเมื่อวานไง กลุ่มวิศวะน่ะ”น้ำหวานพยักหน้ารับรู้เธอหันไปมองเล็กน้อยแต่พอสบเข้ากับสายตาของใครอีกคน คนตัวเล็กก็ชะงักไปทันทีเพราะเธอจำได้ว่าเขาคือคนที่เธอชนในวันนั้น ไม่รู้ทำไมเขาถึงมองเธออยู่คนตัวเล็กรีบหลบสายตาก่อนจะหันหน้าหนีทำเหมือนไม่มีอะไรทันที แต่ทว่าในใจของเธอรู้สึกเต้นแรงมากๆ ดวงตาคมเข้มมันดูดุดูเจ้าเล่ห์อย่างชัดเจน เขาเป็นคนอันตรายต่อความรู้สึกคนอื่นแน่นอน ไม่รู้สิเธอรู้สึกว่ามันมีกระแสบางอย่างที่แล่นขึ้นมาดูแล้วเขาเจ้าชู้มากจริงๆ

“มองอะไรวะไอ้เต?”เห็นสายตาเพื่อนจับจ้องอะไรบางอย่างอยู่เหมันต์จึงถามออกไป

“คนที่ชนกูน่ะ”

“เหรอ มาชมรมนี่ด้วยนี่กูนึกสงสัยแล้วสิ”

“สงสัยอะไร”

“ก็สงสัยว่าที่ชนน่ะอุบัติเหตุหรือตั้งใจ แถมเข้าชมรมนี่อีกคงไม่ใช่สาวๆ ที่ปลื้มมึงจนตามมาหรอกนะ”คำพูดของเหมันต์ทำให้เตชินท์นิ่งไป ก่อนที่มุมปากจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแววตาของเขาที่จ้องมองคนตัวเล็กเหมือนเสือหิวกระหายก็ไม่ปาน

“ใจเย็นเพื่อน ไหนว่าไม่สนใจไง”

“ก็แค่ขำๆ ไม่ติดถ้าอยากจะเล่น”

“ครับ เพื่อนผมมันร้ายที่สุด”สายลมส่ายหน้าไปมาเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนทั้งสองพูดคุยกัน

“เล่นไปเล่นมาระวังติดใจนะ”สายลมพูดเมื่อเห็นเพื่อนมองคนตัวเล็กอีกคนอยู่อย่างนั้น

“หึ คนอย่างกูเหรอไม่มีทางติดใจใคร โดยเฉพาะผู้หญิงแบบนั้น”ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่แย่แต่ไม่ใช่แบบที่เขาชอบ จืดชืดดูใสๆ แต่ไม่รู้ว่าใสจริงรึเปล่า ผู้หญิงประเภทนี้เขาก็เจอมาเยอะบางทีอาจเป็นอย่างที่เหมันต์ว่า ผู้หญิงคนนี้อยากจะเข้าหาเขาก็ได้

“ใส่ผ้าปิดปากทำไมล่ะ”น้ำหวานหันไปถามแก้มใสที่จู่ๆ ก็หยิบหน้ากากอนามัยขึ้นมาสวมใส่

“รู้สึกเหมือนจะเป็นหวัดน่ะ กลัวติดคนอื่น”หญิงสาวพยักหน้าให้ก่อนจะฟังอาจารย์ที่เดินเข้ามาในห้องพอดี ชมรมนี้ไม่มีอะไรมากในวันแรกแค่แนะนำต่างๆ และก็ยังไม่ได้สรุปว่าปีนี้จะทำอะไรยังไงรอรุ่นพี่พูดคุยกันอยู่ หลังจากหมดเวลาหญิงสาวทั้งสองก็เดินออกจากห้อง น้ำหวานรับรู้ถึงสายตาของอีกคนที่เหมือนจะมองเธอมันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้แต่พอเห็นผู้หญิงเข้าไปหาทักทายอีกฝ่ายมันก็ทำให้เธอไม่ได้สนใจอะไร

บทก่อนหน้า
บทถัดไป